ณ เวลา 23.26 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,037.13 จุด บวก 7.93 จุด หรือ 0.03%
นายพาวเวลกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐในวันนี้ว่า เขายังไม่พบสัญญาณเงินเฟ้ออย่างชัดเจนที่เกิดจากค่าจ้างในขณะนี้ หลังจากที่คำกล่าวเตือนเงินเฟ้อของเขาในวันอังคาร ส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลงอย่างหนัก
นายพาวเวลยังกล่าวว่า ตลาดแรงงานยังคงสามารถปรับตัวแข็งแกร่งมากขึ้นอีก โดยไม่ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อที่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ
"เรายังไม่เห็นหลักฐานว่าค่าจ้างจะพุ่งขึ้นอย่างชัดเจน โดยเราเห็นว่าค่าจ้างขยับขึ้นทีละน้อย โดยส่วนใหญ่จะเพิ่มขึ้น 2.5% ซึ่งผมไม่พบว่าอัตราเงินเฟ้อที่เกิดจากค่าจ้างกำลังเร่งตัวขึ้น และผมคาดว่าตลาดแรงงานจะยังคงแข็งแกร่งต่อไปได้อีก โดยไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ" เขากล่าว
ถ้อยแถลงดังกล่าวของนายพาวเวลบ่งชี้ถึงการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของเฟด ซึ่งแตกต่างจากถ้อยแถลงในวันอังคารที่เขากล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ และส่งสัญญาณว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง
นอกจากนี้ นายพาวเวลยังระบุในวันนี้ว่า เฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่จับตาไม่ให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างร้อนแรงเกินไป แต่เฟดก็จะไม่ขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ประธานเฟดยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป
นอกจากนี้ ต่อข้อซักถามของสมาชิกคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐที่ว่า เหตุใดเฟดจึงยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่า 2% ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายของเฟด นายพาวเวลตอบว่า "ในขณะนี้ เรามีอัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับ 4.1% ซึ่งสิ่งที่เราไม่ต้องการให้เกิดขึ้นก็คือ เราดำเนินการล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งหากเฟดไม่ดำเนินการก่อนที่เงินเฟ้อพุ่งขึ้น และปล่อยให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นก่อน ก็จะทำให้เฟดต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย"