ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ร่วงลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะเกิดสงครามการค้าและการตอบโต้ระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าเหล็กจนส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ประกาศเตรียมเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมีเนียม
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 30,568.02 จุด ลดลง 476.23 จุด, -1.53% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,097.35 จุด ลดลง 627.12 จุด, -2.89% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,857.70 จุด ลดลง 3.16 จุด, -0.17%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% ในสัปดาห์หน้า โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐ
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ได้ประชุมร่วมกับกลุ่มผู้บริหารธุรกิจที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผู้บริหารของบริษัทยูเอส สตีล คอร์ป และเซ็นจูรี อลูมิเนียม
นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยวานนี้ ระบุว่า สหภาพยุโรปจะดำเนินการตอบโต้อย่างรุนแรงและสมน้ำสมเนื้อ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทยุโรปที่ส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมไปยังสหรัฐอเมริกา โดยท่าทีดังกล่าวของนายยุงเกอร์มีขึ้นเพียงไม่นาน หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของบรรดาซัพพลายเออร์ในประเทศอื่นๆ
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ กระทรวงสื่อสารและกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเดือนม.ค.ลดลงสู่ระดับ 2.4% จากระดับ 2.7% ในเดือนธ.ค.
ด้านกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานว่างในเดือนม.ค.อยู่ที่ระดับ 1.59 ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของเดือนธ.ค. 17 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวหมายความว่า มีตำแหน่งงานว่าง 159 อัตรา สำหรับผู้หางานทุกๆ 100 คน
สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค. ดีดตัวขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากการผลิตที่ขยายตัวขึ้นในอุตสาหกรรมรถยนต์และชิป
ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมเหมืองแร่ อุตสาหกรรมการผลิต และอุตสาหกรรมแก๊สและไฟฟ้า ดีดตัวขึ้น 1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และพุ่งขึ้น 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี