ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 300 จุดในวันนี้ จากการที่นักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในสัปดาห์หน้า
ณ เวลา 21.58 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,285.99 จุด ลดลง 322.99 จุด หรือ 1.31%
หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโบอิ้งร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
หุ้นกลุ่มบริษัทในภาคการผลิตที่ต้องใช้เหล็กและอลูมิเนียม เช่น เจเนอรัล มอเตอร์ และโบอิ้ง ต่างร่วงลงในวันนี้
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า การทำสงครามการค้าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับสหรัฐ และเป็นเรื่องง่ายที่จะชนะ
"เมื่อประเทศหนึ่ง (สหรัฐ) ต้องสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการทำการค้ากับแทบทุกประเทศ การทำสงครามการค้าก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และชนะได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราต้องสูญเสียเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์กับบางประเทศ เราก็อย่าได้ทำการค้าต่อไปอีก เราก็จะชนะอย่างยิ่งใหญ่ นี่เป็นเรื่องง่ายๆ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความดังกล่าว หลังจากที่เมื่อวานนี้ เขาได้ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% ในสัปดาห์หน้า โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อประเทศที่จะถูกเรียกเก็บภาษีดังกล่าว และระยะเวลาที่สหรัฐจะดำเนินการเก็บภาษี
ทางด้านนักวิเคราะห์เตือนว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้าแทนที่จะช่วยปกป้องการจ้างงานในสหรัฐ จะกลับเป็นปัจจัยทำลายการจ้างงานในประเทศ เนื่องจากการเก็บภาษีจะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้เหล็กและอลูมิเนียม ซึ่งก็คืออุตสาหกรรมรถยนต์และน้ำมันของสหรัฐ
บริษัทอีเลคโทรลักซ์ของสวีเดน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในยุโรป ประกาศว่า ทางบริษัทจะชะลอแผนการลงทุนวงเงิน 250 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐ หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม
"เราได้พักแผนการลงทุนดังกล่าว เนื่องจากเราเชื่อว่าการเก็บภาษีจะทำให้ราคาเหล็กในตลาดสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างมาก" โฆษกของบริษัทกล่าว