ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน จากการที่นักลงทุนยังคงมีความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมในสัปดาห์หน้า
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,069.90 จุด ลดลง 105.74 จุด หรือ -1.47%
สำหรับทั้งสัปดาห์แล้ว ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลง 2.4% โดยปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2
ตลาดหุ้นลอนดอนยังคงได้รับแรงกดดัน ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันต่อเนื่อง ด้วยความวิตกหลังปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความว่า การทำสงครามการค้าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับสหรัฐ และเป็นเรื่องง่ายที่จะชนะ
"เมื่อประเทศหนึ่ง (สหรัฐ) ต้องสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในการทำการค้ากับแทบทุกประเทศ การทำสงครามการค้าก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และชนะได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราต้องสูญเสียเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์กับบางประเทศ เราก็อย่าได้ทำการค้าต่อไปอีก เราก็จะชนะอย่างยิ่งใหญ่ นี่เป็นเรื่องง่ายๆ" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความดังกล่าว หลังจากที่ก่อนหน้านั้น เขาได้ประกาศว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% ในสัปดาห์หน้า โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะปกป้องภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ
หุ้นโรลส์-รอยซ์ โฮลดิง พีแอลซี ผู้ผลิตเครื่องยนต์ ปรับตัวลดลง 1.3% ด้วยความวิตกว่าโรลส์-รอยซ์จะได้รับผลกระทบจากการประกาศเรียบเก็บภาษีครั้งนี้