ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: แรงซื้อหุ้นบลูชิพหนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นบลูชิพ ซึ่งรวมถึงหุ้นโรลส์-รอยซ์ อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า การที่นายแกรี่ โคห์น ตัดสินใจลาออกจากหัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว อาจก่อให้เกิดสงครามการค้าในไม่ช้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 372.71 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,245.36 จุด เพิ่มขึ้น 131.49 จุด, +1.09% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,187.83 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด, +0.34% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,157.84 จุด เพิ่มขึ้น 11.09 จุด, +0.16%

หุ้นโรลส์-รอยซ์ ผู้ผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน ทะยานขึ้น 11.5% หลังจากบริษัทสามารถพลิกกลับมาได้กำไรได้ 6.79 ล้านดอลลาร์ ในปี 2560 พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2561

หุ้นสเมอร์ฟิท คัปปา กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งวัสดุ พุ่งขึ้น 6.3% หลังจากบริษัทอินเตอร์เนชันแนล เปเปอร์ ประกาศว่า ทางบริษัทยังพร้อมจะเจรจาข้อเสนอเทคโอเวอร์กิจการสเมอร์ฟิท คัปปา ในวงเงิน 8.6 พันล้านยูโร หรือประมาณ 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยกดดันจากการที่นักลงทุนกังวลว่า การลาออกของนายโคห์นจะยิ่งทำให้ปธน.ทรัมป์เดินหน้าการใช้นโยบายกีดกันทางการค้า ซึ่งจะจุดปะทุให้เกิดสงครามการค้าทั่วโลก โดยล่าสุดทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์เมื่อคืนนี้ว่า ปธน.ทรัมป์จะเดินหน้าประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมภายในสัปดาห์นี้

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงอันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐ โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ขยับลง 0.1% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 1.7% และหุ้นริโอทินโต ปรับตัวลง 0.2%