ดาวโจนส์ร้อนแรงทะยานกว่า 300 จุด ขานรับจ้างงานแกร่ง ขณะคลายวิตกคาบสมุทรเกาหลี

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday March 10, 2018 00:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นไม่หยุดในวันนี้ ล่าสุดทะยานกว่า 300 จุด ขานรับปัจจัยบวกหลายประการที่ช่วยหนุนตลาด โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง แต่ไม่ส่งสัญญาณเงินเฟ้อ เนื่องจากค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาจะยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโกจากมาตรการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม รวมทั้งจากการที่ตลาดคลายวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี

ขณะเดียวกัน การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักดันตลาดในวันนี้

ณ เวลา 00.34 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,240.08 จุด เพิ่มขึ้น 344.87 จุด หรือ 1.39%

หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ดีดตัวขึ้นมากที่สุด

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันนี้ หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 2 วัน โดยตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่ง และการคลายความวิตกในคาบสมุทรเกาหลี

ณ เวลา 00.34 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 1.66 ดอลลาร์ หรือ 2.76% สู่ระดับ 61.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.พ.เป็นตัวเลขสมบูรณ์แบบที่ดีที่สุดสำหรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.พ. โดยพุ่งขึ้น 313,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นเพียง 4 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.1% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% สู่ระดับ 26.75 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี โดยต่ำกว่าระดับ 2.9% ในเดือนม.ค.

นักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงาน 313,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ถือเป็นจุดหักเหของเศรษฐกิจ ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทต่างๆมีการจ้างงานมากพอที่จะช่วยนำคนว่างงานในระยะยาวเข้าสู่ตลาดแรงงาน

นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของค่าแรงที่ระดับ 0.1% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ ก็ได้ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น หลังจากที่การทะยานขึ้นของค่าแรงในเดือนม.ค.ได้ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดีดตัวขึ้น และฉุดให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลง

นักวิเคราะห์ชี้ว่า เฟดมองว่าการจ้างงานในเดือนก.พ.อยู่ในภาวะสมบูรณ์แบบ ซึ่งหมายความว่าไม่มากจนเกินไปจนบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป หรือทำให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้ ขณะเดียวกัน ตัวเลขการจ้างงานในวันนี้ก็ไม่ได้อ่อนแอจนเกินไปจนทำให้เฟดมีความกังวลเกี่ยวกับการร่วงลงของค่าจ้าง

สำหรับนักลงทุนในตลาด มองว่าตัวเลขการจ้างงานในวันนี้บ่งชี้ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ แต่ก็ไม่ร้อนแรงจนทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นจนเฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว

ทางด้านสัญญาฟิวเจอร์สอัตราดอกเบี้ยสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อยหลังการเปิดเผยรายงานจ้างงานดังกล่าว แต่ไม่ได้ดีดตัวมากจนบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาจะยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโกจากมาตรการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม รวมทั้งจากการที่ตลาดคลายวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี

ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาจะยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโกจากมาตรการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% และส่งสัญญาณยกเว้นภาษีให้กับประเทศอื่นๆ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเกิดสงครามการค้า

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ตกลงที่จะพบปะกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ภายในเดือนพ.ค. ซึ่งจะช่วยลดความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ