ดัชนีตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) ตามทิศทางตลาดหุ้นยุโรป ที่ได้รับอิทธิพลจากตลาดหุ้นสหรัฐมาอีกทอดหนึ่ง หลังการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขจ้างงานของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่ค่าจ้างเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 21.27 จุด หรือ +0.30% ปิดที่ 7,224.51 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนและตลาดหุ้นยุโรปต่างปิดปรับตัวขึ้นหลังได้รับอิทธิพลจากตลาดหุ้นสหรัฐ ที่พุ่งขึ้นหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.พ. โดยพุ่งขึ้น 313,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.15% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% สู่ระดับ 26.75 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลที่ว่าภาวะเงินเฟ้ออาจสูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) มองว่าอัตราเงินเฟ้อในภูมิภาคยังไม่เพียงต่อการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆที่มีผลต่อการซื้อขายในตลาดเมื่อคืนนี้ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.ของสหราชอาณาจักร ที่ขยายตัว 1.3% ต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ 1.5% ขณะที่การขาดดุลการค้าโดยรวมเพิ่มขึ้นที่ 3.4 พันล้านปอนด์ แตะที่ระดับ 8.7 พันล้านปอนด์ ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนจนถึงเดือนม.ค. โดยสาเหตุหลักมาจากการส่งออกเชื้อเพลิงที่ลดลง และการนำเข้าเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น
ด้านหุ้นที่น่าสนใจได้แก่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์อย่าง จีเคเอ็น พีแอลซี ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.3% หลังการประกาศควบรวมกิจการด้านเพลาขับร่วมกับบริษัทดาน่า อิงค์ มูลค่ากว่า 6.1 พันล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน หุ้นบริษัทสินค้าหรูหราอย่างเบอร์เบอร์รี่ กรุ๊ป พีแอลซี ปรับตัวขึ้น 1.4% หลังการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง