ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุนักลงทุนกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 15, 2018 07:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนที่จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันว่า ECB จะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรต่อไป หากอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.2% ปิดที่ 374.94 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,233.36 จุด ลดลง 9.43 จุด หรือ -0.18% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,132.69 จุด ลดลง 6.09 จุด หรือ -0.09% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,237.74 จุด เพิ่มขึ้น 16.71 จุด หรือ +0.14%

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์มีแผนที่จะออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ, โทรคมนาคม และสินค้าเพื่อผู้บริโภคจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้การทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังกดดันให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้า 1 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมกับกล่าวว่า สหรัฐไม่สามารถเมินเฉยต่อการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปลดช่วงลบ เนื่องจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ซึ่งกล่าวว่า ECB จะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตร หากอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยนายดรากียังกล่าวด้วยว่า ECB ต้องการเห็นหลักฐานที่ชัดเจนมากกว่านี้ว่า เงินเฟ้อในยูโรโซนกำลังปรับตัวเพิ่มขึ้น ก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้ปัจจัยหนุนในระหว่างวัน จากสกุลเงินยูโรที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันที่เกิดขึ้นผลประกอบการของบริษัทข้ามชาติ อันเนื่องมาจากการแข็งค่าของยูโรในช่วงก่อนหน้านี้

หุ้นอาดิดาส ทะยานขึ้น 11% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2561 พร้อมประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น

หุ้นพรูเดนเชียลดีดตัวขึ้น 5.1% หลังจากบริษัทประกาศแผนการแยกธุรกิจเอ็มแอนด์จี พรูเดนเชียล ซึ่งจะทำให้เอ็มแอนด์จี พรูเดนเชียล สามารถให้บริการด้านการลงทุนและเงินออมได้อย่างเป็นอิสระ

ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวานนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2561 ขยายตัว 7.2% โดยหุ้นแองโกล อเมริกา พุ่งขึ้น 3.3% และหุ้นอันโตฟากัสตา เพิ่มขึ้น 3.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ