ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ทั้งแดนบวกและลบ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของรัฐบาลสหรัฐ ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ปรับเปลี่ยนคณะทำงานด้านเศรษฐกิจและต่างประเทศ ด้วยการดึงนายแลร์รี่ คุดโลว์ นักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจสังกัดพรรครีพับลิกันเข้ามาเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจแทนที่นายแกรี่ โคห์น ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 31,473.14 จุด เพิ่มขึ้น 38.13 จุด, +0.12% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,674.48 จุด ลดลง 102.81 จุด, -0.47% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,852.34 จุด ลดลง 4.72 จุด, -0.25%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความว่า สหรัฐไม่สามารถเมินเฉยต่อการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม "เราไม่สามารถทำเป็นมองไม่เห็นต่อพฤติกรรมการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมอย่างแพร่หลายต่อประเทศของเรา" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ ทางด้านทำเนียบขาวชี้แจงว่า ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความในวันพุธที่แล้วที่ระบุว่า สหรัฐได้แจ้งให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้ากับสหรัฐ โดยให้ปรับลดลง 1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ แต่ที่จริงแล้ว ปธน.ทรัมป์ต้องการบอกให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้า 1 แสนล้านดอลลาร์ ไม่ใช่ 1 พันล้านดอลลาร์
ล่าสุด นายแลร์รี่ คุดโลว์ ว่าที่ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของผู้นำสหรัฐได้ส่งสัญญาณว่า ทรัมป์อาจจะสนับสนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และใช้นโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นกับจีน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (ODI) นอกภาคธุรกิจการเงินของจีนยังคงขยายตัวในอัตรา 2 หลัก ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้
กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า บริษัทจีนออกไปลงทุนในบริษัทต่างแดนนอกภาคธุรกิจการเงิน 1,429 แห่ง ใน 135 ประเทศ คิดเป็นเงินกว่า 1.682 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 25.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว