ดัชนีดาวโจนส์ยังคงดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดพุ่งขึ้นกว่า 250 จุด โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นโบอิ้ง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสในวันนี้
ณ เวลา 23.07 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,011.54 จุด เพิ่มขึ้น 253.42 จุด หรือ 1.02%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 226,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดิ่งลงแตะระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512
ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 158 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2513
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) พุ่งขึ้น 9.0 จุด สู่ระดับ 22.5 จุดในเดือนมี.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 15 จุด
ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่
ผู้ถูกสำรวจจำนวน 38% ระบุว่า สภาวะธุรกิจดีกว่าเดือนที่แล้ว ขณะที่ 15% รายงานว่าสภาวะธุรกิจย่ำแย่ลง
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความวานนี้ระบุว่า สหรัฐไม่สามารถเมินเฉยต่อการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม
"เราไม่สามารถทำเป็นมองไม่เห็นต่อพฤติกรรมการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมอย่างแพร่หลายต่อประเทศของเรา" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ทางด้านทำเนียบขาวแถลงว่า ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความในวันพุธที่แล้วที่ระบุว่า สหรัฐได้แจ้งให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้ากับสหรัฐ โดยให้ปรับลดลง 1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ แต่ที่จริงแล้ว ปธน.ทรัมป์ต้องการบอกให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้า 1 แสนล้านดอลลาร์ ไม่ใช่ 1 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี โฆษกทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า รัฐบาลสหรัฐต้องการให้จีนบรรลุเป้าหมายดังกล่าวอย่างไร โดยจะเป็นการซื้อสินค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น เช่น ถั่วเหลืองหรือเครื่องบิน หรือไม่ หรือจีนต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายภาคอุตสาหกรรม, ลดเงินอุดหนุนรัฐวิสาหกิจ หรือลดกำลังการผลิตเหล็กและอลูมิเนียม
นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐได้เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ, โทรคมนาคม และสินค้าเพื่อผู้บริโภคจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อตอบโต้การทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม
เมื่อปีที่แล้ว จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐจำนวน 3.752 แสนล้านดอลลาร์
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนเพิ่มขึ้น 16.7% สู่ระดับ 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2558 โดยตัวเลขส่งออกไปยังจีนดิ่งลง 28.1% ขณะที่นำเข้าเพิ่มขึ้น 2.9%