ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นเทสโก้ พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,139.76 จุด เพิ่มขึ้น 7.07 จุด หรือ +0.10%
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ, โทรคมนาคม และสินค้าเพื่อผู้บริโภคจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้การทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม
หุ้นเทสโก้ พุ่งขึ้น 1.8% หลังจากนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเทสโก้ขึ้นสู่ระดับ "overweight "
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากหุ้นยูนิลีเวอร์ที่ร่วงลง 1.7% หลังจากบริษัทประกาศแผนการผนวกรวมสำนักงานใหญ่ 2 แห่งในเมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แทนที่จะดำเนินการดังกล่าวในกรุงลอนดอน โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นแม้รัฐบาลอังกฤษยืนยันว่า การแยกตัวออกจาสหภาพยุโรป (Brexit) จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศก็ตาม
นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายและจับตาข้อพิพาททางการเมือง หลังจากมีรายงานว่า รัสเซียจะขับไล่นักการทูตของสหราชอาณาจักรในไม่ช้า เพื่อตอบโต้อังกฤษที่ได้ประกาศขับนักการทูตรัสเซีย 23 คนก่อนหน้านี้
นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศขับนักการทูตรัสเซีย หลังรัสเซียปฏิเสธที่จะชี้แจงกรณีมีการใช้สารพิษทำลายระบบประสาทโจมตีอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวของเขาเมื่อต้นเดือนนี้ โดยสารเคมีที่ใช้ในการโจมตีดังกล่าวอยู่ในกลุ่มสารพิษทำลายระบบประสาทที่รัสเซียพัฒนาขึ้น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "Novichok"