ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วง วิตกสงครามการค้า,นักลงทุนชะลอซื้อขายก่อนประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 20, 2018 07:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากสงครามการค้า นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 373.68 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,217.02 จุด ลดลง 172.56 จุด หรือ -1.39% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,222.84 จุด ลดลง 59.91 จุด หรือ -1.13% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,042.93 จุด ลดลง 121.21 จุด หรือ -1.69%

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ, โทรคมนาคม และสินค้าเพื่อผู้บริโภคจากจีน ในวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้การทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามกดดันให้จีนปรับลดยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐลง 1 แสนล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 20-21 มี.ค.นี้ ขณะที่ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.

หุ้นไมโคร โฟกัส ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ ทรุดฮวบลง 46% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2561

หุ้นแฮมเมอร์สัน พุ่งขึ้น 24% หลังจากแฮมเมอร์สันได้ปฏิเสธข้อเสนอเทคโอเวอร์กิจการมูลค่า 4.9 พันล้านปอนด์จากบริษัทเคลปิเยร์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของฝรั่งเศส ขณะที่รายงานดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเคลปิเยร์ ร่วงลง 4%

หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ ดีดตัวขึ้น 3.6% หลังจากบริษัทเชอร์บอร์น อินเวสเตอร์ส แมเนจเมนท์ ได้เข้าซื้อหุ้น 5.20% ในธนาคารบาร์เคลย์ส

นักลงทุนให้ความสนใจต่อรายงานข่าวที่ว่า สหภาพยุโรป (EU) และสหราชอาณาจักร สามารถบรรลุข้อตกลงในการอนุญาตให้สหราชอาณาจักรยังคงอยู่ใน EU ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2563 แต่จะมีบทบาทและอำนาจที่ลดน้อยลง

ทั้งนี้ EU และสหราชอาณาจักรกำหนดช่วงเวลาดำเนินกระบวนการเปลี่ยนผ่านเป็นเวลา 21 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.2562 จนถึงสิ้นปี 2563 ก่อนที่สหราชอาณาจักรจะแยกตัวออกจาก EU (Brexit) อย่างสมบูรณ์

การกำหนดระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อให้ภาคธุรกิจและพลเมืองทั้งในสหราชอาณาจักรและ EU มีเวลามากขึ้นในการเตรียมพร้อมสำหรับการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจาก EU และจะช่วยให้คณะเจรจาของสหราชอาณาจักรและ EU มีเวลาในการสรุปการเจรจาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ฝ่ายขณะเริ่มปี 2564


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ