ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกเงินยูโรแข็งฉุดผลประกอบการบริษัทข้ามชาติ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 27, 2018 07:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรได้ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทข้ามชาติ และได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า จีนได้ประกาศความพร้อมที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.7% ปิดที่ 363.19 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2560

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,787.26 จุด ลดลง 99.05 จุด หรือ -0.83% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,888.69 จุด ลดลง 33.25 จุด หรือ -0.48% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,066.28 จุด ลดลง 28.94 จุด หรือ -0.57%

การแข็งค่าของสกุลเงินยูโรส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทข้ามชาติ โดยในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.2446 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2356 ดอลลาร์ หลังจากนายเจนส์ เวดมานน์ ประธานธนาคารกลางเยอรมนี และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่า ECB ควรยุติการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยความเคลื่อนไหวของนายเวดมานน์ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่า ECB อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2562

ทั้งนี้ การแข็งค่าของยูโรได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า รัฐบาลจีนพร้อมที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า โดยนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า จีนและสหรัฐควรจัดการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการทำสงครามทางการค้า พร้อมกับย้ำว่า จีนพร้อมที่จะเปิดตลาดสำหรับภาคธุรกิจของสหรัฐ โดยจีนจะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันต่อบริษัทในประเทศและบริษัทต่างชาติ และจีนจะไม่บังคับให้บริษัทต่างชาติทำการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่บริษัทท้องถิ่น รวมทั้งจีนจะคุมเข้มการปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา

หุ้นโรช โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของสวิตเซอร์แลนด์ ปิดตลาดปรับตัวลง 0.7% หลังจากที่ราคาหุ้นได้พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากความสำเร็จในการทดสอบยารักษาโรคมะเร็งปอด

หุ้นสเมอร์ฟิท คัปปา บริษัทบรรจุภัณฑ์และผลิตกระดาษของไอร์แลนด์ ดิ่งลง 4.1% หลังจากบริษัทได้ปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการจากอินเตอร์เนชันแนล เปเปอร์ ในวงเงิน 37.54 ยูโรต่อหุ้น

หุ้นเจดี สปอร์ตส์ แฟชั่น ร่วงลง 4.7% หลังจากมีรายงานว่า เจดี สปอร์ต แฟชั่น วางแผนเข้าซื้อกิจการบริษัทฟินิช ไลน์ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งในสหรัฐ ในวงเงิน 558 ล้านดอลลาร์

หุ้นเฟรสนิลโล ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ ดีดตัว 4.6% ขณะที่หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ พุ่งขึ้น 1.5% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงของหุ้นทั้งสองบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ