ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (27 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากหุ้นแกล็กโซสมิทไคล์นที่พุ่งขึ้นเกือบ 5% หลังจากบริษัทประกาศซื้อธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพจากกิจการร่วมทุนกับบริษัทโนวาร์ทิส
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,000.14 จุด เพิ่มขึ้น 111.45 จุด หรือ +1.62%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า จีนและสหรัฐควรจัดการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการทำสงครามทางการค้า พร้อมกับย้ำว่า จีนพร้อมที่จะเปิดตลาดสำหรับภาคธุรกิจของสหรัฐ โดยจีนจะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันต่อบริษัทในประเทศและบริษัทต่างชาติ และจีนจะไม่บังคับให้บริษัทต่างชาติทำการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่บริษัทท้องถิ่น รวมทั้งจีนจะคุมเข้มการปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา
หุ้นแกล็กโซสมิทไคล์น พุ่งขึ้น 4.9% หลังจากบริษัทประกาศทุ่มเงิน 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในการซื้อธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพจากกิจการร่วมทุนกับบริษัทโนวาร์ทิส โดยการซื้อธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้แกล็กโซสมิทไคล์น สามารถครอบครองผลิตภัณฑ์ที่รวมถึง ยาสีฟัน"เซ็นโซดายน์", ยาบรรเทาปวดลดไข้"พานาดอล" และเจลลดอาการปวด"โวลทาเรน"
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น หลังจากข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มส่งสัญญาณคลี่คลาย โดยหุ้นเกลนคอร์ พุ่งขึ้น 3.2% หุ้นแองโกล อเมริกัน ดีดตัวขึ้น 1.7% และหุ้นริโอทินโต ปรับตัวขึ้น 1.8%
หุ้นเฟอร์กูสัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง ทะยานขึ้น 6.7% หลังจากบริษัทประกาศแผนจ่ายเงินปันผลวงเงินรวม 1 พันล้านดอลลาร์ ภายหลังจากรายได้และกำไรของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีงบการเงิน 2561