ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นไชร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ รวมทั้งการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภค ซึ่งรวมถึงหุ้นยูนิลีเวอร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากสกุลเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบริษัทข้ามชาติปรับตัวขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,044.74 จุด เพิ่มขึ้น 44.60 จุด หรือ +0.64%
หุ้นไชร์ พุ่งขึ้น 15.6% หลังจากมีรายงานว่า ทาเคดะ ฟาร์มาซูติคัล ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของญี่ปุ่น กำลังพิจารณาเข้าซื้อกิจการของไชร์ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง
หุ้นยูนิลีเวอร์ ดีดตัวขึ้น 4.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นยูนิลีเวอร์ขึ้นสู่ระดับ "buy" จากระดับ "neutral"
หุ้นแอสโซซิเอทเต็ด บริติช ฟู้ดส์ (ABF) พุ่งขึ้น 3.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของ ABF ขึ้นสู่ระดับ "equal weight" จากระดับ "overweight"
ตลาดหุ้นลอนดอนได้ปัจจัยหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยหนุนหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยรายได้ 75% ของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนนั้นอยู่ในรูปของสกุลเงินต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ การอ่อนค่าของเงินปอนด์จึงส่งผลในด้านบวกต่อบริษัทเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยหุ้นบีพี ขยับลง 0.8% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 1%