ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ นำโดยหุ้นไชร์ พีแอลซี และกลุ่มสาธารณูปโภค ซึ่งแรงซื้อหุ้นกลุ่มเหล่านี้ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงาน
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 369.26 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,130.44 จุด เพิ่มขึ้น 14.70 จุด หรือ +0.29% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,044.74 จุด เพิ่มขึ้น 44.60 จุด หรือ +0.64% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,940.71 จุด ลดลง 30.12 จุด หรือ -0.25%
หุ้นไชร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ พุ่งขึ้น 15.6% หลังจากมีรายงานว่า ทาเคดะ ฟาร์มาซูติคัล ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของญี่ปุ่น กำลังพิจารณาเข้าซื้อกิจการของไชร์ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง
หุ้นยูนิลีเวอร์ ดีดตัวขึ้น 4.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอสได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นยูนิลีเวอร์ขึ้นสู่ระดับ "buy" จากระดับ "neutral"
หุ้นแอสโซซิเอทเต็ด บริติช ฟู้ดส์ (ABF) พุ่งขึ้น 3.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของ ABF ขึ้นสู่ระดับ "equal weight" จากระดับ "overweight"
ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงตามทิศทางตลาดวอลล์สตรีท โดยหุ้นเอเอ็มเอส เอจี ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของบริษัทแอปเปิล อิงค์ ร่วงลง 9.8% หุ้นเอสทีเอ็มไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ดิ่งลง 5.3% หุ้นเอเอสเอ็มแอล ร่วงลง 4.5% และหุ้นอินฟิเนียน เทคโนโลยีส์ ร่วงลง 4%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยหุ้นบีพี ขยับลง 0.8% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 1%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุด สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.อยู่ที่ระดับ 100 ซึ่งทรงตัวจากสถิติเดือนก.พ. และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดไว้ว่า ความเชื่อมั่นจะทรงตัวที่ระดับ 100 เช่นกัน