ตลาดหุ้นเอเชียบวกเช้านี้ หลังดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 300 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 4, 2018 09:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืน โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และกูเกิล)

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 21,415.85 จุด เพิ่มขึ้น 123.56 จุด, +0.58% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,147.05 จุด เพิ่มขึ้น 10.42 จุด, +0.33% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 30,244.22 จุด เพิ่มขึ้น 64.12 จุด, +0.21% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,447.97 จุด เพิ่มขึ้น 5.54 จุด, +0.23% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,420.85 จุด เพิ่มขึ้น 8.70 จุด, +0.25% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,846.77 จุด ลดลง 4.01 จุด, -0.22% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 8,084.93 จุด เพิ่มขึ้น 36.21 จุด, +0.45% ส่วนตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้เนื่องในวันเด็ก

อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขาย ขณะจับตาสถานการณ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า คิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะบีบให้จีนผ่อนปรนกฎระเบียบด้านการค้าและการลงทุน

USTR ระบุว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25% จำนวน 1,300 รายการ ตั้งแต่สินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น การแพทย์ การบิน และเซมิคอนดักเตอร์ ไปจนถึงสินค้าจำพวกเครื่องจักรและเคมีภัณฑ์ นอกจากนี้ มาตรการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวยังครอบคลุมถึงสินค้าผู้บริโภคอย่างเครื่องซักผ้า เครื่องกวาดหิมะ และมอเตอร์ไซค์

มาตรการดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ในทันที โดยบริษัทสหรัฐจะมีเวลาจนถึงวันที่ 22 พ.ค. ในการแสดงความคิดเห็นเพื่อคัดค้านประเด็นดังกล่าว ซึ่งทาง USTR จะเริ่มเปิดการรับฟังความเห็นจากประชาชนในวันที่ 15 พ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เพื่อลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ พร้อมกับสั่งการให้ USTR เปิดเผยรายการสินค้าที่จะถูกเรียกเก็บภาษีภายใน 15 วัน และจะมีช่วงเวลา 30 วันสำหรับการรับฟังความเห็นจากประชาชน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตากลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐจะเริ่มรายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกในวันที่ 13 เม.ย.

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), คำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.พ., ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ