ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (5 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่า สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะคลี่คลายลงได้ผ่านทางการเจรจา
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,199.50 จุด เพิ่มขึ้น 165.49 จุด หรือ +2.35%
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นลอนดอนทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2559 หรือในรอบเกือบ 2 ปี และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก จากการที่นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ภายหลังทั้งสองฝ่ายมีแนวโน้มที่จะหันมาเจรจากันเพื่อแก้ไขข้อพิพาททางการค้า
นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ขณะนี้สหรัฐยังไม่มีการบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีน และจีนก็ยังไม่ได้บังคับใช้มาตรการดังกล่าวกับสหรัฐเช่นกัน โดยทั้งสองประเทศมีเวลาอย่างน้อย 2 เดือนก่อนที่จะตัดสินใจบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้า
ทางด้านนายชุย เถียนไค เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐ กล่าวว่า ทางเลือกแรกของจีนควรจะเป็นการหันหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐ โดยจีนพร้อมที่จะเจรจาและปรึกษาหารือกับสหรัฐ
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยวานนี้ ผลการสำรวจของไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหราชอาณาจักร อยู่ที่ 51.7 ในเดือนมี.ค. ลดลงจาก 54.5 เมื่อเดือนก.พ. โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการจ้างงานที่ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 3 เดือน รวมถึงผลกระทบจากหิมะตกหนัก
เงินปอนด์อ่อนค่าลง หลังจากการรายงานข้อมูลภาคบริการที่อ่อนแรงลงดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยยอดขายรถยนต์เดือนมี.ค.ในสหราชอาณาจักร ซึ่งร่วงลงถึง 15.7% จากปีก่อน ลดลงเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้น รับความหวังสงครามการค้าสหรัฐ-จีนคลี่คลาย เพราะอุตสาหกรรมเหมืองแร่มีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในจีน เนื่องจากจีนเป็นผู้ซื้อโลหะรายใหญ่ ทั้งโลหะอุตสาหกรรมและโลหะมีค่า
หุ้นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่พุ่งขึ้นคึกคัก นำโดยหุ้นเกลนคอร์บวก 3.99% หุ้นแองโกล อเมริกัน 3.59% และอันโตฟากัสตา 3.22%
หุ้นพลังงานปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยทุลโลว์ ออยล์ พุ่ง 5.88% บีพีบวก 3.74%
ไมโคร โฟกัส อินเตอร์เนชั่นแนล ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและซอฟต์แวร์ ทะยานขึ้นถึง 8.86% หุ้นเอฟราซ พุ่ง 5.46% และจอห์นสัน แมทธีย์ บวก 4.34%
หุ้นเอชเอสบีซี บวก 1.75%
หุ้นลบนำโดย ไดเร็ก ไลน์ อินชัวรันซ์ กรุ๊ป ร่วง 9.96% หุ้นอวีว่า กลุ่มบริษัทประกันภัยชั้นนำ ร่วง 2.93% หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอร์สเซส ร่วง 2.49%