ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าพุ่งขึ้นเกือบ 300 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขานรับการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงที่ส่งสัญญาณว่าจีนพร้อมเปิดกว้างให้ต่างชาติเข้าถึงตลาดจีนมากขึ้น และจีนจะปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายราฟาเอล บอสติค ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้
ณ เวลา 17.42 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 275 จุด หรือ 1.15% สู่ระดับ 24,287 จุด
นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากที่ปธน.สี จิ้นผิง ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย (BFA) โดยให้คำมั่นว่าจีนจะปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์และภาษีนำเข้าสินค้าอื่นๆบางประเภท รวมทั้งเปิดกว้างการเข้าถึงตลาดจีน
นอกจากนี้ ปธน.สี จิ้นผิงยังได้ให้คำมั่นบนเวทีประชุม BFA ในวันนี้ว่า จีนจะปรับปรุงสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งจะเพิ่มการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทต่างชาติ
ปธน.สี จิ้นผิงส่งสัญญาณการปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์ หลังจากที่เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความโจมตีจีนซึ่งเรียกเก็บภาษีต่อรถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐ สูงกว่าที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีรถยนต์ที่นำเข้าจากจีน
"เมื่อมีการส่งรถยนต์จากจีนเข้าสู่สหรัฐ สหรัฐเรียกเก็บภาษีเพียง 2.5% แต่เมื่อมีการส่งรถยนต์จากสหรัฐเข้าสู่จีน จีนเรียกเก็บภาษี 25% นี่เป็นการทำการค้าที่เสรีและยุติธรรมหรือไม่ ไม่ใช่แน่ มันเหมือนการทำการค้าที่โง่เง่า และสิ่งนี้เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ทั้งนี้ จีนเรียกเก็บภาษี 25% ต่อรถยนต์ส่วนใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยแบ่งเป็นภาษีศุลกากร 10% และภาษีรถยนต์ 15% และหากเป็นรถยนต์หรูที่มีราคามากกว่า 1.3 ล้านหยวน (200,000 ดอลลาร์) ก็จะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 10%
นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ โดยเจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกในวันศุกร์นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานการประชุมประจำวันที่ 20-21 มี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพรุ่งนี้ และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้เช่นกัน โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟด หลังจากที่ประชุมเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่นักลงทุนให้ความสนใจในสัปดาห์นี้ รวมถึง ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมี.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.พ., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน