ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) หลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงส่งสัญญาณว่า จีนพร้อมเปิดกว้างให้ต่างชาติเข้าถึงตลาดจีนมากขึ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,266.75 จุด เพิ่มขึ้น 72.00 จุด หรือ +1.00%
นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากที่ปธน.สี จิ้นผิง ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม ฟอร์ เอเชีย (BFA) โดยให้คำมั่นว่าจีนจะปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์และภาษีนำเข้าสินค้าอื่นๆบางประเภท รวมทั้งเปิดกว้างการเข้าถึงตลาดจีน
นอกจากนี้ ปธน.สี จิ้นผิงยังได้ให้คำมั่นบนเวทีประชุม BFA เมื่อวานนี้ว่า จีนจะปรับปรุงสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งจะเพิ่มการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทต่างชาติ
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้น นำโดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 5.1% หุ้นอันโตฟากัสตา ดีดขึ้น 4.5% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 3.5%
หุ้นเกลนคอร์ ปรับตัวขึ้น 2.2% หลังจากนายอีวาน กลาเซนเบิร์ก ซีอีโอของเกลนคอร์ได้ลาออกจากการทำหน้าที่ผู้บริหารของบริษัทยูไนเต็ด คอมพานี รูซัล ของรัสเซีย ภายหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรกับบริษัทและบุคลากรของรัสเซีย
ขณะที่หุ้น Evraz ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่และเหล็กที่ดำเนินงานในรัสเซีย และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ดีดตัวขึ้น 1.1% หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักถึง 14% เมื่อวันจันทร์ อันเนื่องมาจากข่าวสหรัฐคว่ำบาตรรัสเซีย