ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ทั้งแดนบวกและลบ ภายหลังจากที่ตลาดทั่วโลกต่างขานรับสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนที่กล่าวในการประชุมโป๋อ่าว ฟอรั่ม เมื่อวานนี้ โดยนักลงทุนยังคงจับตาปัจจัยที่จะเข้ามาชี้นำตลาด
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 30,960.72 จุด เพิ่มขึ้น 231.98 จุด, +0.75% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,750.43 จุด ลดลง 43.89 จุด, -0.20%
ข้อมูลเศรษฐกิจของจีนและญี่ปุ่นที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค ขยายตัว 2.1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สู่ระดับ 8.91 แสนล้านเยน (ประมาณ 8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานญี่ปุ่นซึ่งเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของบริษัทเอกชนของญี่ปุ่นนั้น ชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.ที่ขยายตัวแข็งแกร่งถึง 8.2%
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ปรับตัวขึ้น 3.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมี.ค.
ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2561 ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย สู่ระดับ 6.0% จากระดับ 5.8% โดยได้ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์การส่งออกที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ADB เตือนว่า มาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ และมาตรการตอบโต้ต่างๆ อาจสร้างความเสียหายต่อการค้าโลก
ขณะเดียวกัน ADB ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจจีนขึ้นสู่ระดับ 6.6% ในปี 2561 จากตัวเลขคาดการณ์เมื่อเดือนธ.ค.ซึ่งอยู่ที่ 6.4% ส่วนในปี 2562 คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 6.4%
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ADB ได้เปิดเผยรายงานประจำปีชื่อว่า "แนวโน้มการพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย (Asian Development Outlook) ในวันนี้ โดยระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งไม่นับรวมญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีแนวโน้มขยายตัว 6.0% ในปี 2561 และ 5.9% ในปี 2562 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวชะลอตัวลงจากปี 2560 ซึ่ง GDP มีการขยายตัว 6.1%
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผนรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 20-21 มี.ค. ในวันนี้ และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. ในวันนี้เช่นกัน โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่ประชุมเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา