ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตข้อความล่าสุดว่า การยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรียอาจจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 378.81 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,258.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.20 จุด หรือ +0.02% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,415.01 จุด เพิ่มขึ้น 121.04 จุด หรือ +0.98% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,309.22 จุด เพิ่มขึ้น 31.28 จุด หรือ +0.59%
นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในซีเรีย หลังจากปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า การยิงขีปนาวุธโจมตีซีเรียอาจจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ โดยคำกล่าวของปธน.ทรัมป์สอดคล้องกับที่นางซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐยังไม่ได้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายเกี่ยวกับการโจมตีซีเรีย โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมทางเลือกเอาไว้ทุกทาง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งระบุว่า การดำเนินการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร หรือการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB นั้น จะดำเนินการในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
หุ้นไชร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากมีรายงานว่า บริษัททาเคดะ ฟาร์มาซูติคัล ของญี่ปุ่น กำลังเจรจากับสถาบันการเงินบางแห่งเพื่อกู้ยืมเงินในการเข้าซื้อกิจการบริษัทไชร์
หุ้นอินเตอร์เนชันแนล แอร์ไลน์ (IAG) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.1% หลังจาก IAG ส่งสัญญาณว่าอาจเข้าซื้อกิจการสายการบินแอร์ ชัทเทิล ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของนอร์เวย์ ขณะที่ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นแอร์ ชัทเทิล พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 47%
หุ้นคาร์ฟูร์ ร่วงลง 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ลดลงในไตรมาส 1 ปีนี้ อันเนื่องมาจากยอดขายที่ซบเซาในตลาดยุโรป