ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ร่วงลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างจีนและสหรัฐ แม้ว่า ข้อมูลผิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไตรมาส 1 ของจีนที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ จะขยายตัวสูงสอดคล้องคาดการณ์ก็ตาม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วงลง 43.85 จุด หรือ 1.41% ปิดที่ 3,066.80 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประกาศห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐขายสินค้าต่างๆให้กับบริษัท ZTE ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารของจีน เป็นเวลา 7 ปี หลังจาก ZTE ได้ทำการส่งมอบสินค้าให้กับอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงและเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
การออกมาตรการดังกล่าวของสหรัฐอาจสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อ ZTE เนื่องจากบริษัทสหรัฐได้จัดหาชิ้นส่วนต่างๆซึ่งใช้ในการผลิตอุปกรณ์ของ ZTE ในสัดส่วนราว 20-30% ของอุปกรณ์ทั้งหมดของ ZTE ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟน และชิ้นส่วนที่ใช้ในการสร้างเครือข่ายโทรคมนาคม
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกมาผลักดันสหรัฐให้ดูแลและสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับบริษัทของจีนอย่างเป็นธรรม และชอบด้วยกฎหมายอย่างมีเสถียรภาพ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประกาศใช้นโยบายปฏิเสธการส่งออกของจีน ด้วยการห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐขายสินค้าต่างๆให้กับบริษัท ZTE ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารของจีน ด้วยข้อกล่าวหาที่ว่า บริษัทได้ละเมิดกฎเกณฑ์ในการบริหารจัดการด้านการส่งออก
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2561 ขยายตัว 6.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี
นายซิง จือหง โฆษก NBS ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า "เศรษฐกิจจีนมีการเริ่มต้นที่ดีในปีนี้" พร้อมระบุว่า แรงผลักดันทางเศรษฐกิจมีความคืบหน้าด้วยดีและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีคุณภาพและศักยภาพ
นายซิงยังกล่าวด้วยว่า อัตราการขยายตัวของ GDP ยังคงอยู่ในกรอบ 6.7%-6.9% เป็นเวลา 11 ไตรมาส ขณะที่อัตราว่างงานและเงินเฟ้อยังคงมีเสถียรภาพ
ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ขยายตัว 6.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดค้าปลีกไตรมาส 1/2561 ขยายตัว 9.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี