ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าแทบไม่ขยับในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวแคบในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 3.00%
หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 3.00% ก็จะเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557 และถ้าหากทะยานขึ้นเหนือระดับ 3.04% ก็จะเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2554
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐนับเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับอัตราเงินกู้จำนอง และอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ และเครื่องมือทางการเงินในระบบ
ณ เวลา 19.13 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 25 จุด หรือ 0.10% สู่ระดับ 24,458 จุด
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงพุ่งขึ้นในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภทอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 3.00% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีใกล้แตะระดับ 3.18%
นักลงทุนแห่เทขายพันธบัตร หลังสูญเสียความน่าดึงดูดในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ จากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.99% ในวันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.175%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
เมื่อวันศุกร์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 2.96% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2551
ทั้งนี้ เฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตพุ่งขึ้นสู่ระดับ 23.2 ในเดือนเม.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 20.5 ซึ่งบ่งชี้ถึงการดีดตัวของราคา และอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะกดดันความสามารถในการทำกำไรของภาคเอกชน
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 232,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของการจ้างงาน และตลาดแรงงานที่ตึงตัว ขณะที่บ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อจากค่าจ้างในระบบเศรษฐกิจ
นักลงทุนกังวลว่าการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อจะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
ตลาดจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้
ฮัลลิเบอร์ตัน บริษัทผู้ให้บริการด้านการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยรายได้และกำไรพุ่งขึ้นในไตรมาส 1 โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น
ทั้งนี้ ฮัลลิเบอร์ตัน เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 46 ล้านดอลลาร์ หรือ 5 เซนต์/หุ้น จากที่ขาดทุน 32 ล้านดอลลาร์ หรือ 4 เซนต์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้พุ่งขึ้น 34% สู่ระดับ 5.74 พันล้านดอลลาร์ จากระดับ 4.28 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว