ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินยูโรที่อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ยังส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินต่อไปช่วงหลายเดือนข้างหน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.9% ปิดที่ 383.75 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.ปีนี้
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 12,500.47 จุด เพิ่มขึ้น 78.17 จุด, +0.63% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,453.58 จุด เพิ่มขึ้น 40.28 จุด, +0.74% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,421.43 จุด เพิ่มขึ้น 42.11 จุด, +0.57%
ตลาดยุโรปดีดตัวขึ้นเนื่องการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโรช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้น โดยยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐหลังจากที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% ขณะเดียวกัน ECB ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนก.ย.
นอกจากนี้ นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวว่า ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นของ ECB แม้มีสัญญาณการชะลอตัวในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับส่งสัญญาณว่า การใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินยังคงมีความจำเป็นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
หุ้นโฟล์คสวาเกน พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 1 เพิ่มขึ้น 3.6%
หุ้นดอยซ์แบงก์ ร่วงลง 1.3% หลังจากธนาคารเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ร่วงลง 79% สู่ระดับ 120 ล้านยูโร และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 376 ล้านยูโร ส่วนรายได้รวมในไตรมาส 1 ลดลง 5% สู่ระดับ 7 พันล้านยูโร โดยรายได้ในธุรกิจ corporate และวาณิชธนกิจ ลดลง 13% สู่ระดับ 3.8 พันล้านยูโร
นอกจากนี้ ดอยซ์แบงก์ยังได้ประกาศแผนปลดพนักงานจำนวนมากในปีนี้ โดยเฉพาะในธุรกิจ corporate, วาณิชธนกิจ และโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งฝ่ายขายตราสารหนี้ และซื้อขายหุ้นในเอเชียและสหรัฐ
หุ้นรอยัล ดัชท์ เชลล์ ปิดตลาดขยับลง 0.7% หลังจากที่ทะยานขึ้นในระหว่างวัน ภายหลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 1 ที่ระดับ 5.322 พันล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับระดับ 3.754 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 5.277 พันล้านดอลลาร์