ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลดลง 67 จุด บ่งชี้วอลล์สตรีทเปิดลบคืนนี้ จับตาประชุมเฟด,ผลประกอบการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 1, 2018 17:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลดลงในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเปิดตลาดแดนลบในคืนนี้ ขณะนักลงทุนรอดูผลการประชุมระยะเวลา 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ รวมทั้งการเปิดเผยผลประกอบการของหลายบริษัท ซึ่งรวมถึงแอปเปิ้ล ที่มีกำหนดรายงานงบการเงินหลังปิดตลาด

ณ เวลา 17.34 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลดลง 67 จุด หรือ 0.28% สู่ระดับ 24,064 จุด

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 1-2 พ.ค.นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และจะปรับขึ้นในการประชุมเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย.จากมาร์กิต ดัชนีภาคการผลิตเดือนเม.ย. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมี.ค. และยอดขายรถยนต์เดือนเม.ย.

ขณะเดียวกัน มาตรการการเก็บภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐกลับมาเป็นที่สนใจของตลาดอีกครั้ง โดยทำเนียบขาวประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐจะขยายเวลาการยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) แคนาดา และเม็กซิโก ออกไปจนถึงวันที่ 1 มิ.ย.นี้ โดยมีเป้าหมายที่จะ "ให้เวลา 30 วันสุดท้าย" แก่ประเทศเหล่านี้ ในการบรรลุข้อตกลงการเจรจาด้านการค้ากับสหรัฐ

ด้านความขัดแย้งทางด้านการค้ากับจีนนั้น ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและจีนจะจัดการเจรจาร่วมกันเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งจะเริ่มในวันพฤหัสบดีนี้ ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

สำหรับเจ้าหน้าที่สหรัฐที่จะเดินทางไปร่วมเจรจากับจีนในครั้งนี้ รวมถึงนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลัง นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) และนายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์

ทั้งนี้ นายมนูชินกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐวางแผนที่จะหยิบยกประเด็นที่สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีน รวมทั้งประเด็นสิทธิทางปัญญา และการร่วมทุน ขึ้นมาพูดคุยในระหว่างการเจรจาทั้ง 2 วันนี้ นอกจากนี้ นายมนูชินกล่าวว่า เขายังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อการเจรจาในครั้งนี้ และทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ต้องการให้การค้าระหว่างจีนและสหรัฐเป็นไปอย่างเสรี มีความยุติธรรม และเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ