ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน และจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ต่ออิหร่าน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,360.21 จุด เพิ่มขึ้น 2.89 จุด หรือ +0.01% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,671.92 จุด ลดลง 0.71 จุด หรือ -0.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,266.90 จุด เพิ่มขึ้น 1.69 จุด หรือ +0.02%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากปธน.ทรัมป์ได้แถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐว่า สหรัฐจะถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ลงนามในปี 2558 ระหว่างอิหร่าน และกลุ่มประเทศ P5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี
ปธน.ทรัมป์ได้แถลงที่ทำเนียบขาวและมีการถ่ายทอดสดว่า เขาจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่รุนแรงต่ออิหร่านอีกครั้ง พร้อมกับย้ำว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านทำร่วมกับกลุ่มประเทศ P5+1 นั้น ไม่สามารถทำให้อิหร่านยุติการพัฒนาอาวุธนิเคลียร์หรือการสนับสนุนผู้ก่อการร้ายในภูมิภาคได้
"นี่เป็นข้อตกลงที่น่ารังเกียจและกระทำขึ้นเพียงฝ่ายเดียว อันที่จริง ข้อตกลงนี้ไม่ควรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เพราะเราไม่สามารถทำให้อิหร่านยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้เลย แก่นสารของข้อตกลงฉบับนี้มีความบกพร่องอย่างมาก" ปธน.ทรัมป์แถลงที่ทำเนียบขาว
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ระบุช่วงเวลาอย่างเจาะจงในการใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่าน และไม่ได้ระบุขนาดความรุนแรงของมาตรการคว่ำบาตรในครั้งนี้เช่นกัน
หุ้นซิตี้กรุ๊ป ดีดตัวขึ้น 3.7% หลังจากวอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า นักลงทุนรายใหญ่ได้เข้าซื้อหุ้นในซิตี้กรุ๊ปเป็นวงเงินสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์
หุ้นทเวนตี้ เฟิร์สท์ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ ปรับตัวลง 0.1% หลังจากมีรายงานว่า คอมแคสต์ คอร์ป เตรียมยื่นข้อเสนอในวงเงินสูงกว่าที่วอลท์ ดิสนีย์ เสนอไว้ที่ 5.24 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อสินทรัพย์ของฟ็อกซ์ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นคอมแคสต์ ร่วงลง 5.5%
หุ้นดีนฟู้ดส์ ทะยานขึ้น 17% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจและความเคลื่อนไหวที่มีผลต่อภาวะการซื้อขายเมื่อคืนนี้ สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมในสหรัฐ ขยับขึ้นเพียง 0.1 จุด สู่ระดับ 104.8 ในเดือนเม.ย. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2 จุด
ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวในการประชุมที่สวิตเซอร์แลนด์เมื่อวานนี้ว่า การที่เฟดและธนาคารกลางของชาติพัฒนาแล้วรายอื่นๆ เริ่มมีการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นนั้น ไม่น่าจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากตลาดเกิดใหม่น่าจะควบคุมดูแลและรับมือได้
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน