ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงก่อนที่นักลงทุนจะทราบผลการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับจุดยืนที่มีต่อข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 ขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า ทาเคดา ฟาร์มาซูติคัล บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการของบริษัทไชร์
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,565.75 จุด ลดลง 1.39 จุด หรือ -0.02%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง โดยหุ้นบีพี ดิ่งลง 1.4% ขณะที่หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับตัวลง 0.9% ก่อนที่นักลงทุนจะทราบผลการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับจุดยืนที่มีต่อข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ทั้งนี้ หลังจากตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการแล้ว ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศการตัดสินใจที่จะนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ลงนามในปี 2558 ระหว่างอิหร่าน และกลุ่มประเทศ P5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี พร้อมประกาศว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่รุนแรงต่ออิหร่านอีกครั้ง เนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวไม่สามารถทำให้อิหร่านยุติการพัฒนาอาวุธนิเคลียร์หรือการสนับสนุนผู้ก่อการร้ายในภูมิภาคได้
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยหุ้นเฟรสนิลโล ดิ่งลง 2.4% หุ้นริโอทินโต ปรับตัวลง 1.3% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 1.5%
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน จากรายงานข่าวที่ว่า ทาเคดา ฟาร์มาซูติคัล ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการบริษัทไชร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของไอร์แลนด์ ในวงเงิน 4.6 หมื่นล้านปอนด์ หรือ 6.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นไชร์ทะยานขึ้น 4.6%
หุ้นยูนิลีเวอร์ ดีดตัวขึ้น 1.8% หลังจากบริษัทได้เริ่มดำเนินการซื้อหุ้นคืนจากกลุ่มผู้ถือหุ้น ตามแผนที่ได้ประกาศไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา