ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อในปีนี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาสถานการณ์การเมืองในอิตาลี
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,022.87 จุด เพิ่มขึ้น 79.81 จุด, +0.62% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,545.95 จุด เพิ่มขึ้น 11.32 จุด, +0.20% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,700.97 จุด เพิ่มขึ้น 38.45 จุด, +0.50%
อย่างไรก็ตาม ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 391.97 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง หลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางอังกฤษยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจสู่ระดับ 1.4% ในปีนี้ โดยลดลงจากระดับ 1.8% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ สำหรับในปี 2562 และ 2563 นั้น ธนาคารกลางอังกฤษคาดว่าเศรษฐกิจจะมีการขยายตัว 1.7% ซึ่งลดลงจากระดับ 1.8% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อในไตรมาส 2 ปีนี้ ลงู่ระดับ 2.4% จากระดับ 2.7%
หุ้นยูนิเครดิต ซึ่งป็นธนาคารรายใหญ่ของอิตาลี พุ่งขึ้น 1.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิทะยานขึ้น 23% ในไตรมาสแรก
หุ้นเน็กซ์ พีแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องใช้ภายในบ้าน พุ่งขึ้น 6.1% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรก่อนหักภาษีในปีงบการเงิน 2561 ขึ้นสู่ระดับ 717 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 971.5 ล้านดอลลาร์
หุ้นบีที กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ ดิ่งลง 7.4% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์กำไรและรายได้ในปีงบการเงิน 2562 พร้อมประกาศแผนปรับลดพนักงาน 13,000 ตำแหน่งในช่วง 3 ปีข้างหน้า ตามแผนปรับโครงสร้างองค์กร
หุ้นแรนด์โกลด์ ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองคำรายใหญ่ ร่วงลง 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีลดลง 27% ในไตรมาสแรก เนื่องจากยอดขายทองคำปรับตัวลดลง และต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น
หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ดีดตัวขึ้น 3.8% หลังจาก RBS ยอมจ่ายเงิน 4.9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีความกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐในคดีที่เกี่ยข้องกับการขายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ในช่วงปี 2548-2550
นักลงทุนจับตาสถานการณ์การเมืองในอิตาลีอย่างใกล้ชิด หลังจากพรรค 5-Star Movement และพรรค League ซึ่งเป็นพรรคการเมือง 2 พรรคที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลี ต่างเห็นพ้องกันว่า ควรมีการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 8 ก.ค. ถ้าหากพรรคการเมืองต่างๆยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่
ทั้งนี้ พรรค 5-Star Movement และพรรค League ได้เสนอวันเลือกตั้งดังกล่าว หลังจากที่ไม่มีพรรคการเมืองใดครองเสียงข้างมากจากการเลือกตั้งในวันที่ 4 มี.ค.