ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ดีดตัวขึ้น หลังสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานขึ้นแตะระดับ 80 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2557 ในระหว่างการซื้อขายที่ตลาดน้ำมันนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,787.97 จุด เพิ่มขึ้น 53.77 จุด หรือ +0.70%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 2% หุ้นบีพี ดีดตัวขึ้น 1.4% หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นแตะระดับ 80 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2557 ในระหว่างการซื้อขายที่ตลาดน้ำมันนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐจะคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่าน หลังจากประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ซึ่งอิหร่านได้ลงนามร่วมกับกลุ่มประเทศ P5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี เมื่อปี 2558
หุ้นเบอร์เบอร์รี่ กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากนักวิเคราะห์จากเครดิต สวิส และดอยซ์ แบงก์ ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นเบอร์เบอร์รี่ ภายหลังจากทางบริษัทได้เปิดเผยกำไรปีงบการเงิน 2560 ที่แข็งแกร่งเกินคาด และประกาศซื้อหุ้นคืนจากนักลงทุนในวงเงิน 150 ล้านปอนด์ หรือ 202.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นรอยัล เมล ร่วงลง 7.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีในปีงบการเงิน 2560 ลดลง 37%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลอังกฤษวางแผนที่จะยังคงสถานะของอังกฤษในสหภาพศุลกากรของสหภาพยุโรป (EU) หลังจากที่แยกตัวออกจาก EU แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาข้ามพรมแดนกับไอร์แลนด์