ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในอิตาลี และข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.28% ปิดที่ 394.67 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,077.72 จุด ลดลง 36.89 จุด หรือ -0.28% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,614.51 จุด ลดลง 7.41 จุด หรือ -0.13% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,778.79 จุด ลดลง 9.18 จุด หรือ -0.12%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองในอิตาลี หลังจากที่พรรค 5-Star Movement และพรรค League ซึ่งเป็นพรรคการเมือง 2 พรรคที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลีบรรลุข้อตกลงในการจัดทำแผนการของรัฐบาลผสม ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษีและเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการคลัง แต่ยังไม่ครอบคลุมประเด็นเรื่องการนำอิตาลีออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐและจีนกำลังร่วมมือกันเพื่อเปิดทางให้บริษัท ZTE ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารของจีน สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้ง โดยการทวีตข้อความดังกล่าวของปธน.ทรัมป์มีขึ้น ก่อนที่สหรัฐและจีนจะเจรจาการค้ารอบที่ 2 เพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าที่เกิดขึ้น
หุ้นเฟอร์รารี ลดลง 0.9% หลังจากบริษัทประกาศแต่งตั้งหัวหน้าฝ่ายการเงินคนใหม่ และหุ้นเกลนคอร์ พีแอลซี ลดลง 4.4% หลังมีข่าวออกมาว่าบริษัทอาจถูกสอบสวนกรณีรับสินบนจากการดำเนินธุรกิจในคองโก