ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐและจีนได้ตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าเป็นการชั่วคราว และมีการกำหนดกรอบการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาดุลการค้าในอนาคต
ณ เวลา 20.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,018.36 จุด เพิ่มขึ้น 303.27 จุด หรือ 1.23% โดยดาวโจนส์สามารถดีดตัวทะลุระดับ 25,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค.
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นแคทเทอร์ พิลลาร์ทะยานขึ้นมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ระบุว่า จีนได้ให้สัญญาที่จะซื้อสินค้าเกษตรจำนวนมากจากสหรัฐ หลังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าที่จีนให้สัญญาที่จะซื้อจากสหรัฐแต่อย่างใด
"จีนได้ตกลงที่จะซื้อสินค้าเกษตรจำนวนมาก นี่เป็นสิ่งดีที่สุดที่จะเกิดกับเกษตรกรของเราในรอบหลายปี และการทำการค้าที่ยุติธรรมกับจีนจะเกิดขึ้น" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ด้านนายมนูชินเปิดเผยในวันนี้ว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์ที่แล้วได้ให้ผลประโยชน์ที่สามารถจับต้องได้
"ผมคิดว่าเราได้สร้างความคืบหน้าที่มีความหมายอย่างมาก และขณะนี้อยู่ที่สหรัฐและจีนที่จะสร้างความมั่นใจว่าเราจะนำมาดำเนินการได้" เขากล่าว
นายมนูชินกล่าวว่า นักลงทุนควรมองว่าการเจรจาที่ผ่านมา ถือเป็นชัยชนะของสหรัฐ
"เราสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการกำหนดกรอบการดำเนินงาน ถึงแม้ยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันอยู่มาก" เขากล่าว
นายมนูชินระบุว่า บริษัทเอกชนสามารถใช้การเจรจานี้เป็นกรอบการเจรจาการค้ากับจีน ซึ่งเขาหวังว่าบริษัทสหรัฐจะสามารถขายพลังงาน 4-5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่บริษัทของจีน
"สิ่งนี้จะดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งหากรวมกับมาตรการปรับลดภาษี เราก็จะมี GDP ที่แข็งแกร่งตลอดทั้งปีนี้" เขากล่าว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 1-2 พ.ค. ในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้