ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าอ่อนตัวลง เหตุวิตกนโยบายการค้าและการเมืองสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 24, 2018 11:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้อ่อนตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐ ภายหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้สั่งการให้นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณาแผนการตรวจสอบเพื่อประเมินว่า รถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้นเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติหรือไม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์การเมืองระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือว่า การประชุมสุดยอดของผู้นำทั้ง 2 ประเทศจะเกิดขึ้นหรือไม่

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 22,439.54 จุด ลดลง 250.20 จุด หรือ -1.10% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,782.50 จุด ลดลง 21.75 จุด หรือ -1.21% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 30,686.97 จุด เพิ่มขึ้น 21.33 จุด หรือ +0.07%

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 1-2 พ.ค.เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเร็วๆนี้ หากแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐมีความสอดคล้องกับการคาดการณ์ของเฟด

"กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า หากข้อมูลที่เฟดจะได้รับในเร็วๆนี้มีความสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่เฟดคาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน ก็ถือว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) จะก้าวเข้าสู่อีกขั้นตอนหนึ่งของการยกเลิกนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน" รายงานการประชุมระบุ

ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมานั้น ทำให้กรรมการเฟดมั่นใจว่า อัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% โดยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พุ่งขึ้น 2.0% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีที่แล้ว และสอดคล้องกับเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดที่ระดับ 2%

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้สั่งการให้นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณาแผนการตรวจสอบเพื่อประเมินว่า รถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้นเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติหรือไม่ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของทรัมป์ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราสูงถึง 25%

"อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์นั้นมีความสำคัญยิ่งต่อความเจริญรุ่งเรืองของสหรัฐ" ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์

ทั้งนี้ คาดว่า การตรวจสอบดังกล่าวน่าจะเป็นการดำเนินการตามมาตรา 232 ซึ่งเป็นมาตราเดียวกับที่สหรัฐใช้เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อไม่นานมานี้

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า "ในเร็วๆนี้จะมีข่าวใหญ่สำหรับชาวอเมริกันที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ พวกคุณอดทนรอมานานเกินไปแล้ว หลังจากที่ต้องสูญเสียงานให้กับประเทศอื่นๆเป็นเวลาหลายทศวรรษ"

สำหรับสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีนั้น นางโช โซนฮุย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือเปิดเผยในวันนี้ว่า เกาหลีเหนือจะพิจารณาไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ในวันที่ 12 มิ.ย. นี้ที่สิงคโปร์ หากสหรัฐมีพฤติกรรมไม่สอดคล้องตามหลักกฎหมาย และมีท่าทีคุกคาม ซึ่งหมายความว่า การที่เกาหลีเหนือจะเข้าร่วมประชุมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและพฤติกรรมของสหรัฐ

นางโชกล่าวว่า "หากสหรัฐต่อต้านเจตนารมณ์ที่ดีของเรา รวมทั้งมีการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายและมีท่าทีคุกคาม ดิฉันก็จะเสนอให้ผู้นำสูงสุดของเรา นำเรื่องการเข้าร่วมประชุมสุดยอดเกาหลีเหนือ-สหรัฐมาพิจารณาใหม่"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ