ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลงในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ หลังมีข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์
ณ เวลา 20.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 51 จุด หรือ 0.21% สู่ระดับ 24,808 จุด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้สั่งการให้นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์ ทำการตรวจสอบว่า รถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของปธน.ทรัมป์ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราสูงถึง 25%
ทั้งนี้ คาดว่าการตรวจสอบดังกล่าวจะเป็นการดำเนินการตามมาตรา 232 ซึ่งเป็นมาตราเดียวกับที่สหรัฐใช้เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อไม่นานมานี้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐออกแถลงการณ์ระบุว่า การตรวจสอบดังกล่าวจะประเมินว่าการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ที่ลดลงในสหรัฐ ถือเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจสหรัฐหรือไม่ ทั้งในแง่ผลกระทบต่อการวิจัย การพัฒนา และตำแหน่งงานสำหรับแรงงานทักษะด้านระบบยานยนต์เชื่อมต่อ ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ เซลล์เชื้อเพลิง มอเตอร์ไฟฟ้าและระบบกักเก็บพลังงาน กระบวนการผลิตขั้นสูง และเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่นๆ
นอกจากนี้ แถลงการณ์ของกระทรวงยังระบุว่า สหรัฐมีการนำเข้ารถยนต์โดยสารเป็นสัดส่วนถึง 48% ของรถยนต์โดยสารทั้งหมดที่ขายในประเทศ เพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 32% เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ขณะที่การจ้างงานในภาคการผลิตยานยนต์ปรับตัวลดลง 22%
ด้านตัวแทนจากอุตสาหกรรมยานยนต์บางส่วนได้ออกมาแสดงความวิตกว่า มาตรการดังกล่าวอาจทำให้รถยนต์และรถบรรทุกในสหรัฐมีราคาแพงขึ้น และท้ายที่สุดจะทำให้ศักยภาพด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐลดน้อยลง และชาวอเมริกันจะมีตัวเลือกลดลงตามไปด้วย
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันนี้นั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่ระดับ 234,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 220,000 ราย
ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 168 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2512