ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการจัดการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่การจัดการประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์ ตามที่มีการกำหนดไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,753.09 จุด ลดลง 58.67 จุด หรือ -0.24% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,721.33 จุด ลดลง 6.43 จุด หรือ -0.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,433.85 จุด เพิ่มขึ้น 9.42 จุด หรือ +0.13%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงรุนแรงถึง 4% อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียกำลังพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันราว 1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.9% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 3.5% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ร่วงลง 2.6% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทรุดลง 5.5% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 4%
หุ้นแก๊ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ ดิ่งลง 15% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้และยอดขายที่ต่ำกว่าคาดกในไตรมาส 1
ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งนำโดยหุ้นบรอดคอม พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นอินเทล ปรับตัวขึ้น 1.3%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเช่นกัน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 1.7% ในเดือนเม.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.4% ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 98 ในเดือนพ.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 98.8 ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ค่อนข้างบางเบา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนช่วงวันหยุดยาวในสหรัฐ โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 28 พ.ค. เนื่องในวัน Memorial Day
สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์นั้น ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.2% ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.3% และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 1.1%
นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการจัดการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างปธน.ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน หลังจากปธน.ทรัมป์ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่การจัดการประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จอง อึน จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์ ตามที่มีการกำหนดไว้ แม้ว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเขาเพิ่งประกาศยกเลิกการประชุมดังกล่าว โดยอ้างถึงท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์จากเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ การเปลี่ยนท่าทีของปธน.ทรัมป์มีขึ้นหลังจากที่ทางฝั่งเกาหลีเหนือได้แสดงความตั้งใจที่จะหันหน้าเจรจากับสหรัฐอีกครั้ง โดยนายคิม คเย กวาน รมช.ต่างประเทศเกาหลีเหนือ และเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือที่ทำหน้าที่เจรจากับสหรัฐ กล่าวว่า เกาหลีเหนือเล็งเห็นถึงความพยายามของปธน.ทรัมป์ในการจัดประชุมสุดครั้งนี้ และเกาหลีเหนือเปิดกว้างสำหรับการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเมื่อใด หรือด้วยวิธีการใดก็ตาม