ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 13.54 จุด รับเงินปอนด์อ่อนหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday May 26, 2018 07:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับความคืบหน้าในการจัดประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่การจัดการประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์ ตามที่มีการกำหนดไว้

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,730.28 จุด เพิ่มขึ้น 13.54 จุด หรือ +0.18%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในดัชนี FTSE 100 โดยรายได้ 75% ของบริษัทข้ามชาติที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนนั้นอยู่ในรูปของสกุลเงินต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ การอ่อนค่าของเงินปอนด์จึงเป็นปัจจัยหนุนหุ้นของบริษัทเหล่านี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ หลังจากปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่การจัดการประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จอง อึน จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์ ตามที่มีการกำหนดไว้ แม้ว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเขาเพิ่งประกาศยกเลิกการประชุมดังกล่าว โดยอ้างถึงท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์จากเกาหลีเหนือ

การเปลี่ยนท่าทีของปธน.ทรัมป์มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือกล่าวว่า เกาหลีเหนือเปิดกว้างสำหรับการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเมื่อใด หรือด้วยวิธีการใดก็ตาม ขณะที่ปธน.ทรัมป์ก็ได้ออกมาขานรับท่าทีของเกาหลีเหนือในการเปิดช่องสำหรับการเจรจากับสหรัฐเช่นกัน

หุ้นจีวีซี โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทพนันออนไลน์ พุ่งขึ้น 4.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้เพิ่มขึ้นในช่วง 20 สัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา

หุ้นแอสทราเซเนกา ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ ดีดตัวขึ้น 0.9% หลังจากบริษัทเปิดว่า ผลการทดลองยา Imfinzi เป็นยารักษาโรคมะเร็งนั้น มีความคืบหน้าด้วยดี

หุ้นเดลี เมล ดิ่งลง 2.8% หลังจากนักวิเคราะห์จากบริษัทเบอร์เรนเบิร์กได้แนะนำให้นักลงทุนขายหุ้นดังกล่าว เนื่องจากผลประกอบการในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าของเดลีเมล มีแนวโน้มขยายตัวเล็กน้อยเท่านั้น

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันเบรนท์ หลังจากมีรายงานว่ากลุ่มโอเปกและรัสเซียกำลังพิจารณาปรับเพิ่มการผลิตน้ำมันราว 1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 1.4% และหุ้นบีพี ดิ่งลง 2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ