ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 200 จุดในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในอิตาลีและสเปน
ณ เวลา 20.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 24,544.78 จุด ลดลง 208.31 จุด หรือ 0.84%
หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ระบุในวันนี้ว่า มูดี้ส์จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี ถ้าหากรัฐบาลชุดใหม่ของอิตาลีไม่สามารถดำเนินนโยบายการคลังที่จะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะของประเทศลดลงอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มูดี้ส์ประกาศเครดิตพินิจสำหรับอิตาลี โดยมีแนวโน้มถูกปรับลดลง และระบุว่า การทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีอาจใช้เวลามากกว่าปกติ โดยจะใช้เวลานานกว่า 3 เดือน
นายแซร์โจ มัตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลี ประกาศแต่งตั้งนายคาร์โล คอตตาเรลลี อดีตนักเศรษฐศาสตร์วัย 64 ปีประจำกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีของอิตาลีเมื่อวานนี้
ทั้งนี้ นายคอตตาเรลลีมีภารกิจในการปรับลดหนี้จำนวนมากของประเทศ และเร่งจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ หลังจากที่ความพยายามในการจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างพรรค Five Stars Movement (M5S) และพรรค Northern League ประสบความล้มเหลวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยนายคอตตาเรลลีคาดว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้
สื่ออิตาลีรายงานว่า นายคอตตาเรลลีจะเปิดเผยรายชื่อคณะรัฐมนตรีในวันนี้
สำนักข่าว Ansa เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีของนายคอตตาเรลลีจะประกอบด้วยรัฐมนตรี 12 ราย โดยคณะรัฐมนตรีดังกล่าวจะบริหารประเทศเพียงชั่วคราว และจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับเสถียรภาพของรัฐบาลสเปน หลังจากที่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้องให้มีการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี มาริอาโน ราฮอย กรณีทุจริตคอร์รัปชัน โดยจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภาในวันพฤหัสบดี ก่อนที่จะมีการลงมติในวันศุกร์นี้ ขณะที่สื่อของสเปนต่างออกมาเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด ท่ามกลางความกังวลของตลาดการเงินว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองและความเป็นไปได้ที่จะมีการจัดการเลือกตั้งใหม่นั้น อาจส่งผลให้เกิดภาวะสุญญากาศทางการเมือง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 6.5% ในเดือนมี.ค. โดยไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับเดือนก.พ.
ราคาบ้านได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และปริมาณสต็อกบ้านในระดับต่ำ
ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.8% ในเดือนมี.ค. โดยไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับเดือนก.พ.
ราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในเมืองซีแอตเติล, ลาสเวกัส และซานฟรานซิสโก