ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้ร่วงลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในอิตาลี รวมทั้งนโยบายการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ภายหลังจากที่ทำเนียบขาวได้ออกแถลงการณ์เดินหน้าใช้มาตรการปกป้องเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญา และจะเปิดเผยรายชื่อสินค้าที่จะถูกจัดเก็บภาษี
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,958.01 จุด ลดลง 400.42 จุด, -1.79% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,730.98 จุด ลดลง 44.86 จุด, -2.53% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 30,054.47 จุด ลดลง 430.11 จุด, -1.41%
ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการปกป้องเทคโนโลยี และทรัพย์สินทางปัญญาจากพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เหมาะสมของจีน
แถลงการณ์ระบุว่า ในวันที่ 15 มิ.ย. สหรัฐจะเปิดเผยรายชื่อสินค้าจีนวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25%
ส่วนในวันที่ 30 มิ.ย. สหรัฐจะประกาศข้อจำกัดในการลงทุน และการควบคุมการส่งออกต่อผู้นำภาคธุรกิจของจีนและองค์กรของจีนที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถือครองเทคโนโลยีที่มีความสำคัญในภาคอุตสาหกรรม
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ระบุในวันนี้ว่า มูดี้ส์จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี ถ้าหากรัฐบาลชุดใหม่ของอิตาลีไม่สามารถดำเนินนโยบายการคลังที่จะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะของประเทศลดลงอย่างยั่งยืน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศได้ดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนพ.ค. หลังจากที่ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีคลี่คลายลง
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCSI) เดือนพ.ค.อยู่ที่ 107.9 เพิ่มขึ้น 0.8 จุดจากระดับของเดือนเม.ย. โดยดัชนีความเชื่อมั่นที่มากกว่าระดับ 100 นั้นบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคที่มีมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มีมุมมองเป็นลบ