ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่ม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันศุกร์และวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ที่ประเทศแคนาดา
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,712.37 จุด เพิ่มขึ้น 25.57 จุด หรือ +0.33%
ตลาดหุ้นยุโรปได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 1.5% ขณะที่หุ้นแองโกล อเมริกัน ทะยานขึ้น 2.2% และหุ้นเกลนคอร์ พุ่งขึ้น 1.1%
ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานนั้น หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับตัวขึ้น 0.4% ขณะที่หุ้นบีพี ดีดตัวขึ้น 0.3%
หุ้นดับเบิลยูเอช สมิธ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ ทะยานขึ้น 5.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้น 4% ในช่วงเวลา 13 สัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 2 มิ.ย. โดยได้ปัจจัยหนุนจากการขยายร้านค้าที่สนามบินและสถานีรถไฟหลายแห่ง
นักลงทุนจับตาการประชุม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศแคนาดาในวันศุกร์และวันเสาร์ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นการค้า รวมถึงกรณีที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ประเทศคู่ค้าเหล่านี้ได้ประกาศมาตรการตอบโต้เช่นกัน
รายงานระบุว่า นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ปธน.ทรัมป์จะพบปะหารือกับนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ในระหว่างการประชุม G7 ครั้งนี้