ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 95.02 จุด รับหุ้น"แมคโดนัลด์"พุ่งแรง ขณะนักลงทุนจับตาประชุม G7

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 8, 2018 06:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นแมคโดนัลด์ หลังจากบริษัทประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งรวมถึงการลดจำนวนพนักงาน อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้ฉุดดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่ม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศแคนาดาในวันนี้ รวมทั้งการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,241.41 จุด เพิ่มขึ้น 95.02 จุด หรือ +0.38% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,770.37 จุด ลดลง 1.98 จุด หรือ -0.07% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,635.07 จุด ลดลง 54.17 จุด หรือ -0.70%

หุ้นแมคโดนัลด์ พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 4.4% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก หลังจากทางบริษัทประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึงการลดจำนวนพนักงาน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะลดการใช้จ่ายลงประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2562 โดยนายคริส เคมพ์ซินสกี ประธานบริษัทแมคโดนัลด์ ยูเอสเอ กล่าวว่า ทางบริษัทจะเปิดเผยตัวเลขการปรับลดพนักงานในการประชุมวันที่ 12 มิ.ย.นี้

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นเกือบ 2% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 1% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.9% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 7.5% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ดีดขึ้น 1.07% และหุ้นมาราธอน ออยล์ พุ่งขึ้น 1.9%

หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับตัวขึ้น 0.4% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทฟอร์ทีฟ คอร์ป ได้ตกลงเข้าซื้อธุรกิจ "Advanced Sterilization Products" จากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ในวงเงิน 2.7 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นฟอร์ทีฟ พุ่งขึ้น 4%

ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 225,000 ราย โดยตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 170 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2512

อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดตลาดในแดนลบ โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.7% หุ้นไมโครซอฟท์ ดิ่งลง 1.6% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดิ่งลง 1.2% หุ้นอินเทล ร่วงลง 2% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ปรับตัวลง 1.6% หุ้นอเมซอนดอทคอม ปรับตัวลง 0.4% และหุ้นทวิตเตอร์ ร่วงลง 1%

นักลงทุนจับตาการประชุม G7 ซึ่งจะจัดขึ้นที่แคนาดาในวันศุกร์และวันเสาร์ที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นการค้า รวมถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดในวันที่ 12-13 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ส่วนการประชุม ECB จะมีขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย. โดยมีการคาดการณ์ว่า ECB จะส่งสัญญาณปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ