ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งความตึงเครียดทางการเมืองในเยอรมนี
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,631.33 จุด ลดลง 2.58 จุด หรือ -0.03%
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากจีนจำนวน 1,100 รายการที่จะต้องถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่รัฐบาลจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจำนวน 659 รายการ โดยเรียกเก็บในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นกัน
นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางการเมืองในเยอรมนียังสร้างแรงกดดันต่อตลาดเช่นกัน หลังจากมีรายงานว่า นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้หารือร่วมกับชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ในประเด็นการรับผู้อพยพเข้าประเทศ ก่อนที่การประชุมผู้นำ EU จะเริ่มขึ้นในวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ นางแมร์เคิลเชื่อว่านโยบายเปิดรับผู้อพยพจะสามารถบรรลุได้หากชาติสมาชิก EU ตัดสินใจและปฏิบัติร่วมกัน แต่ความคิดเห็นของนางแมร์เคิลได้ก่อให้เกิดกระแสต่อต้านจากชาติมาชิก EU ที่ไม่เห็นด้วย รวมถึงบุคคลภายในพรรครัฐบาลผสมของเยอรมนีเอง เช่นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยที่ออกมาต่อต้านนโยบายดังกล่าว
หุ้นดีเอส สมิธ ซึ่งเป็นบริษัทบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ ร่วงลง 2.5% หลังจากบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2561
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีกำหนดจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า BoE จะยังไม่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากอังกฤษเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ ทรงตัวที่ระดับ 2.4% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย