ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) โดยดัชนี FTSE 100 ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 10% ขณะที่จีนก็เตือนว่าจะใช้มาตรการตอบโต้เช่นกัน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,603.85 จุด ลดลง 27.48 จุด หรือ -0.36%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยลบจากความกังวลที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยล่าสุดปธน.ทรัมป์ได้ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ในอัตรา 10% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า รัฐบาลจีนพร้อมจะตอบโต้อย่างรุนแรง หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ตามที่ปธน.ทรัมป์ขู่ไว้
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง จากความวิตกกังวลที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อความต้องการโลหะมีค่าและโลหะสำหรับงานอุตสาหกรรม เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้าโลหะรายใหญ่สุดของโลก ทั้งนี้ หุ้นอันโตฟากัสตา ร่วงลง 1.8% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 2.2% และหุ้นริโอทินโต ดิ่งลง 3.2%
หุ้นเดเบนแฮมส์ ซึ่งเป็นผู้บริหารห้างสรรพสินค้า ร่วงลง 10.7% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรก่อนหักภาษีในปีงบการเงิน 2561 อันเนื่องมาจากการแข่งขันที่ดุเดือดและการชะลอตัวลงของตลาดหลักๆ
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า BoE จะยังไม่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากอังกฤษเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ ทรงตัวที่ระดับ 2.4% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย