ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลงเกือบ 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ดิ่งลงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาด
ณ เวลา 19.59 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 93 จุด หรือ 0.38% สู่ระดับ 24,577 จุด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ในอัตรา 10% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมกับเตือนว่า หากรัฐบาลจีนเรียกเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐอีก เพื่อตอบโต้แผนเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่ในอัตรา 10% สหรัฐก็พร้อมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนในวงเงินเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจีนพร้อมตอบโต้อย่างรุนแรง หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% ตามที่ปธน.ทรัมป์ขู่ไว้
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% หลุดระดับ 65 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ใกล้บรรลุข้อตกลงในการเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมพรุ่งนี้
ณ เวลา 19.10 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 92 เซนต์ หรือ 1.40% สู่ระดับ 64.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นว่า กลุ่มประเทศโอเปกจะบรรลุฉันทามติในการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในวันพรุ่งนี้
นายฟาลีห์ยังกล่าวว่า ผู้บริโภคจะมีความต้องการใช้น้ำมันมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้นโอเปกจำเป็นต้องหารือการเพิ่มกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรล/วัน หลังจากที่สมาชิกบางรายของโอเปกลดกำลังการผลิตมากกว่าที่ตกลงกันไว้
ทั้งนี้ สมาชิก 14 ชาติของโอเปกจะจัดการประชุมนโยบายการผลิตน้ำมันที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่กลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย จะเข้าร่วมการประชุมในวันเสาร์
ทางด้านอิหร่านส่งสัญญาณว่าจะยอมประนีประนอมให้กลุ่มโอเปกเพิ่มกำลังการผลิตเล็กน้อยในการประชุมสัปดาห์นี้
ท่าทีของอิหร่านดังกล่าว ถือว่าแตกต่างจากก่อนหน้านี้ ซึ่งอิหร่านระบุว่าไม่มีแนวโน้มที่โอเปกจะบรรลุข้อตกลงในวันศุกร์นี้
ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันมีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน ขณะที่สหรัฐ, จีน และอินเดียต่างเรียกร้องให้โอเปกเพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อฉุดให้ราคาลดต่ำลง
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 218,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 220,000 ราย
ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกร่วงลงติดต่อกัน 4 สัปดาห์ และยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 172 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2512