ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวแรงเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน ภายหลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ขานรับที่ประชุมโอเปกมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน แต่ไม่ระบุปริมาณชัดเจน โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าทางกลุ่มไม่น่าจะเพิ่มการผลิตมากอย่างที่ตลาดกังวลกันก่อนหน้านี้ และการเพิ่มกำลังการผลิตในระดับดังกล่าวจะไม่กดดันราคาน้ำมันให้ดิ่งลง
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้น 125.83 จุด หรือ 1.67% ปิดที่ 7,682.27 จุด และเพิ่มขึ้น 0.6% ตลอดทั้งสัปดาห์
ทั้งนี้ หลังจากที่ร่วงลงไปถึง 0.9% ในวันพฤหัสบดี ดัชนีหุ้นลอนดอนได้กลับมาดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นบริษัทน้ำมันที่พุ่งรับราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้น หลังรับทราบผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กรุงเวียนนา
โอเปกออกแถลงการณ์หลังการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตวานนี้ โดยระบุว่าโอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน แต่ไม่มีการระบุปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
แถลงการณ์โอเปกระบุว่า เนื่องจากสมาชิกบางประเทศได้ลดกำลังการผลิตมากกว่าที่ได้ตกลงกันไว้ในเดือนพ.ย.2559 ดังนั้น ที่ประชุมจึงมีมติให้สมาชิก 12 ประเทศจากทั้งหมด 14 ประเทศ เพิ่มกำลังการผลิต เพื่อให้ตัวเลขความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันกลับสู่จำนวน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันที่ตกลงกันไว้ในเดือนพ.ย.2559
ก่อนหน้านี้ โอเปกมีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน อย่างไรก็ดี สมาชิกโอเปกได้ให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากถึง 152% ซึ่งหมายความว่าสมาชิกโอเปกได้ปรับลดกำลังการผลิตรวมกันมากกว่า 1.2 ล้านบาร์เรล/วันที่ได้ตกลงกันไว้
แถลงการณ์การประชุมครั้งล่าสุดของโอเปกระบุว่า "สมาชิกโอเปกได้ให้ความร่วมมือลดกำลังการผลิตน้ำมันแตะระดับ 152% ในเดือนพ.ค. ส่งผลให้ที่ประชุมมีมติในวันนี้ให้ลดตัวเลขความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันสู่ระดับ 100% โดยเริ่มต้นวันที่ 1 ก.ค."
ทางด้านแหล่งข่าวเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ที่ประชุมโอเปกมีมติเพิ่มกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนก.ค.
การปรับเพิ่มกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรล/วัน จะสอดคล้องกับที่ซาอุดิอาระเบียเสนอก่อนหน้านี้ ขณะที่รัสเซียเสนอให้ปรับเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ดี เนื่องจากสมาชิกโอเปกบางประเทศไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เนื่องจากติดขัดจากปัจจัยในประเทศ ทำให้คาดว่าตัวเลขการเพิ่มการผลิตน้ำมันที่แท้จริงจะอยู่ในระดับเพียง 600,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และการเพิ่มกำลังการผลิตในระดับดังกล่าวจะไม่กดดันราคาน้ำมันให้ดิ่งลง
ด้านเงินปอนด์ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี แต่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ลงมติไม่เป็นเอกฉันท์ในการประชุมครั้งนี้ด้วยคะแนนเสียง 6-3 ซึ่ง 3 เสียงดังกล่าวมีความเห็นให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.75%
หุ้นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ ทั้งบีพี และรอยัล ดัทช์ เชลล์ ต่างอ่อนตัวลงในช่วงเปิดตลาด แต่กลับมาดีดตัวขึ้นหลังผลประชุมโอเปก
หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่ง 3.5% และบีพี บวก 3.1%
หุ้นเกลนคอร์ บริษัทเหมืองแร่และสินค้าโภคภัณฑ์ข้ามชาติ ทะยาน 4.18%
ด้านหุ้นโคคา-โคลา เอชบีซี ผู้ผลิตขวดของบริษัทโคคา-โคลา ลดลง 0.78% หุ้นไชร์ บริษัทยาชีวภาพ ลดลง 0.54% หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า ลบ 0.49%