ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศต่างๆ หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมออกมาตรการจำกัดการลงทุนต่อทุกประเทศทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะจีนเท่านั้น
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,509.84 จุด ร่วงลง 172.43 จุด หรือ -2.24%
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า ปธน.ทรัมป์วางแผนที่จะห้ามบริษัทของจีนเข้าลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีของสหรัฐ และจะห้ามบริษัทสหรัฐส่งออกเทคโนโลยีให้กับจีน โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง พร้อมระบุว่า สหรัฐเตรียมประกาศมาตรการดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้ เพื่อตอบโต้นโยบาย"เมดอินไชน่า 2025" ของจีนที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยี
ขณะที่นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ได้ทวีตข้อความชี้แจงเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐเตรียมออกแถลงการณ์จำกัดการลงทุนต่อทุกประเทศทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะจีน หากพบว่าประเทศใดละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาต่อสินค้าด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า โดยหุ้นเกลนคอร์ ดิ่งลง 4.7% หุ้นแองโกล อเมริกา ร่วงลง 4.5%
หุ้นคาร์นิวัล ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเรือสำราญ ร่วงลง 11% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในบรรดาหุ้นที่คำนวณในดัชนี FTSE 100 หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ตัวเลขกำไรในปีนี้
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์ หลังจากที่ประชุมโอเปกมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิต โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 3.3% หุ้นบีพี ดิ่งลง 3.1%