ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ จะผ่อนคลายข้อจำกัดในการลงทุนจากจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,621.69 จุด เพิ่มขึ้น 83.77 จุด +1.11%
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะมอบหมายให้คณะกรรมการการลงทุนของต่างประเทศในสหรัฐ (CFIUS) เป็นผู้ดูแลในกรณีที่บริษัทต่างชาติซึ่งรวมถึงจีนนั้น ต้องการจะซื้อกิจการของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐที่มีความอ่อนไหว
ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่า การตัดสินใจดังกล่าวถือว่าไม่เข้มงวดเหมือนกับที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าสหรัฐจะใช้มาตรการสกัดกั้นบริษัทที่มีชาวจีนถือหุ้นมากกว่า 25% เข้าซื้อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นกว่า 3% อันเนื่องมาจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงมากกว่าคาดในสหรัฐ โดยหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 3.4% ขณะที่หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ เพิ่มขึ้น 2.8%
หุ้นวิทเบรด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของคอสต้า คอฟฟี่ และพรีเมียร์ อินน์ ทะยานขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้น 3.2% ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้
หุ้นเจ เซนส์บิวรี ดีดตัวขึ้น 3.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์สได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเจ เซนส์บิวรี ขึ้นสู่ระดับ "overweight" จากระดับ "equal-weight"