ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นในคืนนี้ โดยได้แรงหนุนของหุ้นกลุ่มธนาคาร
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาการปรับตัวของดัชนีดาวโจนส์ทั้งสัปดาห์ พบว่าดัชนียังคงอยู่ในแดนลบ ขณะที่นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า
ณ เวลา 20.24 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 102 จุด หรือ 0.42% สู่ระดับ 24,322 จุด
หุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐพุ่งขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารเหล่านี้สามารถผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) รอบที่ 2 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ ราคาหุ้นของแบงก์ ออฟ อเมริกา, ซิตี้กรุ๊ป และเจพีมอร์แกนพุ่งขึ้น 1% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด ขณะที่เวลส์ ฟาร์โกทะยานขึ้น 3.9%
นอกจากนี้ ธนาคารหลายแห่งได้เปิดเผยแผนการซื้อคืนหุ้น หรือเพิ่มการจ่ายเงินปันผล หลังจากที่สามารถผ่านการทดสอบ
เฟดระบุว่า ธนาคารขนาดใหญ่ 34 แห่ง จาก 35 แห่งสามารถผ่านการทดสอบ ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนลีย์ สามารถผ่านการทดสอบอย่างมีเงื่อนไข โดยเฟดกำหนดให้ธนาคารทั้ง 2 แห่งจ่ายเงินปันผลที่ไม่สูงกว่าระดับในปีที่แล้ว ส่วนธนาคารดอยซ์แบงก์ที่ดำเนินกิจการในสหรัฐไม่ผ่านการทดสอบ
ทั้งนี้ สถาบันการเงินใดที่ผ่านการทดสอบ จะได้รับอนุญาตให้ทำการซื้อคืนหุ้น หรือเพิ่มการจ่ายเงินปันผลได้
เฟดจัดการทดสอบดังกล่าว โดยมีเป้าหมายป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการเงินซ้ำรอยกับเมื่อปี 2551
นักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยรัฐบาลสหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันที่ 6 ก.ค. ซึ่งคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้จีนออกมาตรการตอบโต้สหรัฐ
ส่วนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนพ.ค. โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย.
การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐที่ชะลอตัวในเดือนพ.ค.ได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคที่ลดลง