ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) หลังจากที่สหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับนโยบายผู้อพยพ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สร้างความวิตกกังวลว่าจะก่อให้เกิดความแตกแยกใน EU และอาจส่งผลกระทบต่อเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาลเยอรมนี ได้เป็นผลสำเร็จ
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.81% ปิดที่ 379.93 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,306.00 จุด เพิ่มขึ้น 128.77 จุด หรือ +1.06% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,323.53 จุด เพิ่มขึ้น 47.89 จุด หรือ +0.91% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,636.93 จุด เพิ่มขึ้น 21.30 จุด หรือ +0.28%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มผู้นำ EU ซึ่งได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับนโยบายผู้อพยพ หลังจากที่หารือกันนานเกือบ 10 ชั่วโมง
อิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่รับผู้อพยพจำนวนหลายพันคน ได้ขู่ที่จะใช้สิทธิวีโต้มติดังกล่าว หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากชาติสมาชิก
บรรดาผู้นำ EU ยังระบุอีกด้วยว่า EU ควรจัดตั้งประเทศศูนย์กลางการรับผู้อพยพขึ้นใหม่ โดยกระบวนการดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามความสมัครใจ
นอกจากนี้ ประเทศศูนย์กลางดังกล่าวจะต้องทำการแยกผู้อพยพเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้อพยพที่แท้จริง และผู้อพยพพิเศษ ซึ่งจะมีการส่งตัวกลับประเทศ
การประชุมดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการที่เยอรมนีต้องแบกรับผู้อพยพรวมกันกว่า 1 ล้านคนตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้นำเยอรมนีต้องการจำกัดจำนวนผู้อพยพเข้าประเทศ ด้วยการทำข้อตกลงกับสมาชิก EU ชาติอื่นๆ
หุ้นโนวาร์ติส ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของสวิตเซอร์แลนด์ทะยานขึ้น 4% หลังจากที่บริษัทออกมาประกาศว่าจะซื้อหุ้นคืนมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐและเตรียมแยกธุรกิจของบริษัทอัลคอน ซึ่งอยู่ในสายผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพตาออกจากโนวาร์ติส
ส่วนหุ้นดอยซ์ แบงก์ เพิ่มขึ้น 1.8% แม้ว่ากิจการที่ดำเนินอยู่ในสหรัฐจะไม่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) รอบที่ 2 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)