ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้อ่อนตัวลง เนื่องจากนักลงทุนต่างระมัดระวังการซื้อขายก่อนหน้าแผนการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐและจีนจะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 27,995.08 จุด ลดลง 246.59 จุด, -0.87% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,684.27 จุด ลดลง 32.77 จุด, -0.15%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยแล้วในวันนี้ ได้แก่ ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีใต้มียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนพ.ค.ที่ระดับ 8.68 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน โดยได้ปัจจัยหนุนจากยอดเกินดุลบัญชีสินค้า และการลงทุนในต่างประเทศ
ทั้งนี้ ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนพ.ค.ปีนี้ อยู่ในระดับสูงกว่าตัวเลขของเดือนพ.ค.ปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 5.84 พันล้านดอลลาร์ และนับเป็นเดือนที่ 75 ติดต่อกันที่เกาหลีใต้มีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด
รายงานของธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า ยอดเกินดุลบัญชีสินค้าในเดือนพ.ค.อยู่ที่ระดับ 1.139 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ในตลาดโลกที่สูงขึ้นนั้น ช่วยหนุนยอดขายในต่างประเทศของเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย
นักลงทุนในตลาดการเงินต่างก็จับตารัฐบาลจีนและสหรัฐซึ่งเตรียมบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าในวันศุกร์ที่ 6 ก.ค.นี้ โดยในวันดังกล่าว สหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็เตรียมเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าสหรัฐในวงเงินเดียวกัน
ทั้งนี้ ในช่วงกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้ประกาศรายการสินค้าจำนวน 1,100 รายการของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยสินค้าล็อตแรกจำนวน 818 รายการ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ จะถูกเรียกเก็บภาษีตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.นี้เป็นต้นไป ขณะที่สินค้าล็อตที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา