ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 181.92 จุด ขานรับ"ทรัมป์"ส่งสัญญาณยุติสงครามภาษีรถยนต์ยุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 6, 2018 06:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าจะยุติการเรียกเก็บภาษีรถยนต์จากยุโรป ขณะที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ออกมาสนับสนุนให้สหภาพยุโรป (EU) ปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐเช่นกัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งระบุว่า คณะกรรมการเฟดยังคงเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และยังคงเดินหน้าแผนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,356.74 จุด เพิ่มขึ้น 181.92 จุด หรือ +0.75% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,736.61 จุด เพิ่มขึ้น 23.39 จุด หรือ +0.86% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,586.43 จุด เพิ่มขึ้น 83.75 จุด หรือ +1.12%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ของเยอรมนีรายงานว่า นายริชาร์ด เกรเนลล์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยอรมนี ได้กล่าวต่อผู้บริหารของบริษัทรถยนต์ยุโรปว่า ปธน.ทรัมป์พร้อมที่จะยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรปในอัตรา 20% ถ้าหากยุโรปปรับลดภาษีต่อรถยนต์สหรัฐเช่นเดียวกัน

ทางด้านนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้ออกมาแสดงท่าทีขานรับความเคลื่อนไหวดังกล่าว ด้วยสนับสนุนให้ EU ปรับลดอัตราภาษีต่อรถยนต์ที่นำเข้าจากสหรัฐ

ขณะที่ VDA ซึ่งเป็นสมาคมผู้ค้ารถยนต์เยอรมนีก็ได้ออกมาขานรับเช่นกัน โดยกล่าวว่า ข้อเสนอที่ให้ทั้งสองฝ่ายยกเลิกการเก็บภาษี และกำแพงการค้าระหว่างกัน ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดี โดยปัจจุบัน สหรัฐเก็บภาษีต่อรถยนต์นำเข้าที่ระดับ 2.5% และเก็บภาษีรถบรรทุก 25% ขณะที่ EU เก็บภาษี 10% ต่อรถยนต์นำเข้าจากสหรัฐ

นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนหลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 12-13 มิ.ย. โดยกรรมการเฟดยังคงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง และยังคงยืนยันถึงจุดยืนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้กรรมการเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของข้อพิพาททางการค้าก็ตาม

หุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่งขึ้นหลังจากผู้นำเยอรมนีสนับสนุนให้ EU ปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐ โดยหุ้นเฟียต ไคร์สเลอร์ ออโต้โมบิลส์ พุ่งขึ้น 6% หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ เพิ่มขึ้น 0.6% และหุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ปรับตัวขึ้น 1.3%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 3% หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 0.8% หุ้นอเมซอน เพิ่มขึ้น 0.3% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดีดขึ้น 2% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 2.2% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 0.7% หุ้น Nvidia ทะยานขึ้น 2.5% หุ้นไมครอน เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 2.6% และหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) เพิ่มขึ้น 3.3%

นักลงทุนจับตาการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยในวันนี้ สหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็เตรียมเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าสหรัฐในวงเงินเดียวกันในวันพรุ่งนี้เช่นกัน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.จะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่ง และคาดว่า อัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 3.8%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 177,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 225,000 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ